นิปปอนแฮม จะสร้างความแตกต่างในด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากพืช กลางเดือนกรกฎาคมนี้

5 กรกฎาคม 2565
แชร์ :
Tag : news

บริษัท ไทยนิปปอนฟู้ดส์ จำกัด ในเครือ นิปปอนแฮม เริ่มจำหน่ายไส้กรอกจากพืชกลางเดือนกรกฎาคมนี้  ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าที่ผ่านมา ทำให้การแข่งขันธุรกิจประเภทอาหารภายในประเทศไทยมีความรุนแรง การคิดให้แตกต่างออกไปจากบริษัทอื่น เป็นการสร้างแบรนด์สินค้าให้แข็งแกร่ง โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และเอาใจคนรักสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้นภายในประเทศไทย

ตลาดผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากพืชของไทย ปี2019 อยู่ที่ 280 ล้านบาท (ประมาณ1,036ล้านเยน) ปี2024 คาดการณ์ว่าจะขยายเพิ่มขึ้น 450ล้านบาท โดยจำนวนผู้ทานมังสวิรัติที่คาดว่ามีอยู่ประมาณ2ล้าน3แสนคน จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPF, CP foods) ได้วางจัดจำหน่ายเนื้อบดและไส้กรอก แพลนท์เบส [Meat Zero] เมื่อเดือนพฤษภาคม 2021  ยอดขายแพลนท์เบสปี 2021 อยู่ที่ 200ล้าน-250ล้าน ไทยยูเนี่ยน (TU)บริษัทอาหารทะเลแช่แข็งที่ใหญ่ที่สุดนั้น ได้จำหน่าย [OMG] ผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากพืชในแบรนด์ของตัวเอง โดยตั้งเป้ายอดขาย 1พันล้านบาท ส่งออกไปยัง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันนี ฮ่องกง เป็นต้น

Innovic (เอเชีย) ธุรกิจเกี่ยวกับชีววิทยา ภายใต้กลุ่ม ปตท. ได้เปิดเผยแผนการสร้างโรงงานอาหารแพลนท์เบส (ผลิตภัณฑ์จากพืช) โซนภาคกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลาดผลิตภัณฑ์จากพืชจะขยายตัวมากขึ้น ซึ่งไทยนิปปอนฟู้ดส์เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งนโยบายที่เสริมสร้างความแตกต่างอย่างแรกคือ จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากพืช [ไส้กรอกจากพืช] 1 ถุง 4 ชิ้น ราคา 55 บาท

「นายฮิคารุ โกทันดะ」 ประธานบริษัท ไทยนิปปอนฟู้ดส์ได้กล่าวว่า “เราได้เสริมสร้างภาพลักษณ์การเป็นบริษัทที่ก้าวนำยุคสมัย”

ไทยนิปปอนฟู้ดส์ได้ก่อตั้งโรงงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อปี 1989 ผลิตอาหารแช่แข็ง ไก่ ไส้กรอก ส่งประเทศญี่ปุ่น และตลาดในไทย เริ่มธุรกิจขายปลีกให้กับผู้บริโภคทั่วไปตั้งแต่ปี2014 แต่ยังอยู่ระหว่างค้นหาทิศทางธุรกิจในประเทศไทย กลยุทธ์หนึ่งที่อยากให้ไปถึงเป้าหมาย คือ “การส่งมอบคุณค่า และค่านิยมให้กับลูกค้าโดยที่บริษัทอื่นไม่สามารถให้ได้” นิปปอนแฮมที่ญี่ปุ่น เราเลือกถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบหลัก มาตั้งแต่ปี 20  เราสะสมความรู้ และพัฒนา [เนื้อธรรมชาติ] แพลนท์เบส เช่น เบอร์เกอร์ ไส้กรอก แฮม มีทบอล

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ในประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงเรื่องสุขภาพมากขึ้น ในประเทศไทยมีสาเหตุการเสียชีวิตมากถึง 3 เท่า คือ โรคเบาหวาน ปัญหาส่วนหนึ่ง คือ การต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

ประธานฮิคารุ โกทันดะ มีความคิดเห็นว่า “ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นั้น ทำให้ความต้องการบริการจัดส่งเพิ่มขึ้น แต่ในอีกด้านมีแนวโน้มที่จะอยู่บ้านทำกับข้าวรับประทานเอง”  เราจึงได้นำเสนอสูตรอาหาร ไส้กรอกจากพืชทานคู่สลัด เป็นสินค้าแนะนำ ในการเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ รสชาติของไส้กรอก เราไม่ได้มองแค่ความชื่นชอบคนไทย  แต่เรายังใส่ใจเรื่องสุขภาพ  โดยการเพิ่มรสชาติที่เป็นที่นิยมของคนไทย อย่างรสน้ำผึ้ง เสริมด้วยกระชาย และ ตะไคร้ เมื่อรับประทาน 2 ชิ้น โคเลสเตอรอลเป็น 0 แต่ได้รับสารอาหารอย่าง โปรตีน 8 กรัม และใยอาหาร 4 กรัม เป็นต้น

ไม่ใช่แค่  “การทดแทนเนื้อสัตว์” ไทยนิปปอนฟู้ดส์ เราไม่ได้ผลิตสินค้าจากพืชเพียงแค่ทดแทนเนื้อสัตว์ แต่เรายังกระตุ้นการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภค สินค้าจากพืชเมื่อเปรียบเทียบในปริมาณเท่ากันกับเนื้อสัตว์ ปริมาณน้ำที่ใช้น้อยลง 99%  การใช้ดินน้อยลง 93%  ปริมาณการปล่อยแก๊สเรือนกระจกลดลง 90% การใช้พลังงานลดลง 46%  แพ็คเกจของ”ไส้กรอกจากพืช” เราเปลี่ยนมาใช้เป็นไบโอพลาสติก และยอดขายส่วนหนึ่งนำมาบริจาคเพื่อปลูกป่าชายเลนที่จังหวัดเพชรบุรี

มาตรการสำคัญในการผลักดันเศรฐกิจของไทยในธุรกิจขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้อง อย่าง  “BCG (Bio-Circular-Green)” ผู้จัดการการตลาด คุณคาโน นะซึคิ เตรียมทิศทางในการจำหน่าย “ไส้กรอกจากพืช” ด้วยการ “ประเมินจากผู้ซื้อ ด้านสุขภาพและด้านสิ่งแวดล้อม” แนวทางในการวางจำหน่าย เป็นแบบ retail chain ตั้งแต่ระดับชนชั้นกลาง

สามารถหาซื้อได้ที่ ซูเปอร์มาร์เก็ตขายปลีกเดอะมอลล์กรุ๊ป กรูเมต์มาเก็ต 11สาขา ซูเปอร์มาเก็ตขายสินค้าเพื่อสุขภาพ  ช่องทางออนไลน์ต่างๆ (EC)  เว็บไซต์บริษัท(https://thainipponfoods.com/th/) ผลตอบรับของผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ไส้กรอก  จะส่งผลต่อการพิจารณาพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชในสินค้าอื่น   นอกจากนี้ได้มองถึงการขยายไปสู่ธุรกิจขายส่ง เช่น ร้านอาหาร เป็นต้น

แหล่งที่มา : https://www.nna.jp/news/show/2357323

ข่าวสารและกิจกรรม

Top